นายแพทย์อโณทัย สุ่นสวัสดิ์
จิตแพทย์

(Psychiatrist)

 

หากกล่าวถึงคำนิยามที่อธิบายความเป็น หมอต๊ะ-อโณทัย สุ่นสวัสดิ์ จิตแพทย์ผู้รักการออกกำลังกายและโยคะได้ดี คำนั้นน่าจะเป็นคำว่า ‘รักในความท้าทาย’

 
ในยุคหนึ่ง หลายคนอาจเลือกเรียนแพทย์ตามความต้องการของผู้ปกครอง หมอต๊ะในวัยเด็กเองก็ไม่ได้มีความฝันด้านอาชีพชัดเจน แต่รู้สึกประทับใจความเท่ในอาชีพหมอจากซีรีส์ทางโทรทัศน์ เมื่อเติบโตขึ้นและอยากออกไปเห็นโลกกว้างมากกว่าบ้านและจังหวัดที่อยู่อาศัย หมอต๊ะจึงเลือกไปเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แต่การเดินทางไกลกลับไม่จบแค่นั้น มันยังพาเขาไปสู่เส้นทางที่ยุคนั้นยังไม่ค่อยมีหมอคนไหนเลือก
ระหว่างทำงานใช้ทุน หมอต๊ะเกิดไอเดียรวมกลุ่มกับเพื่อนเพื่อเดินทางไปเรียนต่อไกลถึงอเมริกา ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการสอบใบอนุญาต เขาเลือกสอบเข้าเรียนต่อด้านจิตเวชโดยอิงจากประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัสมาในช่วงฝึกงาน

 
“ส่วนใหญ่หมอจะทำงานตามตำรา ความรู้สึกส่วนตัวของเราคือพอทำงานไปบางสาขามันจะเริ่มมีความซ้ำ ๆ แต่ขณะเดียวกันพอเราได้เจอคนไข้จิตเวช เขาอาจมีปัญหาซึมเศร้า มีภาวะระแวง นักศึกษาแพทย์บางคนจะไม่ได้รู้สึกว่าอาการนั้นเป็นปัญหา แต่รู้สึกว่ามันท้าทาย ทุกครั้งที่คุยกับคนไข้ มันคือเรื่องใหม่ แล้วการที่เราสามารถดูแลจนเขากลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติก็เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ดีในเวลานั้น” หมอต๊ะเล่า “ชีวิตผมค่อนข้างขับเคลื่อนด้วยการท้าทายตัวเองไปเรื่อย ๆ พอทุกอย่างเริ่มซ้ำ เราก็อยากทำอะไรที่แตกต่างไป”

ระหว่างเรียนอยู่ต่างประเทศ เขามีโอกาสดูแลคนไข้ที่เป็นทหารผ่านศึกหลากหลายกลุ่ม และเริ่มสังเกตว่าคนไข้ที่เป็นผู้สูงวัยมีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจและมีมิติหลากหลายในตัวเอง แต่การทำงานกับคนไข้ผู้สูงวัยย่อมต้องพบการจากลาที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ หมอต๊ะถือว่าการทำงานที่ได้ดูแลชีวิตช่วงสุดท้ายของคนไข้เป็นสิ่งที่มีค่า ยิ่งเมื่อได้ทำงานวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ก็รู้สึกว่าตอบโจทย์ความสนใจตัวเอง จึงศึกษาต่อเพื่อลงลึกด้านผู้สูงอายุในเวลาต่อมา ปัจจุบันหมอต๊ะสามารถดูแลได้ทั้งกลุ่มคนไข้ทั่วไปและคนไข้ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อม

เมื่อถามว่าสิ่งที่ชอบที่สุดในงานจิตแพทย์คืออะไร หมอต๊ะยิ้มก่อนตอบว่า “คงเหมือนหมอทั่วไปที่ถ้าเราช่วยเขาได้แม้ในส่วนเล็ก ๆ เราก็มีความสุข ปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์ยังไม่มีการรักษารูปแบบใดที่ช่วยชะลอการดำเนินของโรคได้ ท้ายที่สุดโจทย์การดูแลของเราคือทำอย่างไรให้เขาได้อยู่บ้านแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสัมพันธ์กับคนในบ้านบนพื้นฐานความเข้าใจกัน งานของเราอาจไม่เหมือนหมอรักษามะเร็งที่ทำให้มะเร็งหายไปได้ แต่แค่นั้นก็คือความสำเร็จสำหรับเราแล้ว”

นอกจากดูแลคุณภาพชีวิตให้คนไข้ หมอต๊ะก็ไม่ลืมแบ่งเวลาส่วนตัวมาดูแลตัวเอง เพื่อชาร์จพลังให้พร้อมสำหรับการทำงานและสร้างสมดุลให้ชีวิต เริ่มตั้งแต่การวิ่งไปจนถึงโยคะ ซึ่งอย่างหลังนั้นเขาเอาจริงเอาจังขนาดไปเรียนถึงอินเดีย นอกจากความรู้ภาคทฤษฎีที่ได้ติดตัวกลับมา ที่นั่นเขายังได้พบผู้คนที่ออกเดินทางมาเพื่อแสวงหาบางอย่างในชีวิต ได้เห็นความหลากหลายในผู้คนที่มีพื้นเพต่างกันไป และได้กลับมาย้อนมองตนเองในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ยังอยู่ระหว่างเส้นทางเรียนรู้ชีวิตเช่นเดียวกับทุกคน

 
“เรามีความสุขในทุกวันที่ได้ทำงาน งานของจิตแพทย์อาจไม่ได้ไปยืนผ่าตัด 12 ชั่วโมง แต่มันคือการนั่งฟังที่เราต้องพยายามคิดและเข้าใจคนตรงหน้า การคุยกับคนไข้แต่ละคนมีความแตกต่าง การที่เราได้ฟังเรื่องราวของคนไข้ก็ทำให้เข้าใจได้เหมือนกันว่า ในการเรียนรู้ชีวิต เราไม่จำเป็นต้องทุรนทุราย แค่เข้าใจโลกมากขึ้นไปทีละนิด ๆ เท่านั้นเอง”

ปัจจุบันหมอต๊ะรับบทบาทเป็นทั้งจิตแพทย์และครูสอนโยคะประจำ The Oasis ซึ่งนำความรู้ในศาสตร์โยคะมาช่วยแนะนำคนไข้จิตเวช ด้วยหวังว่าจะทำให้การดูแลสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงง่าย คุณหมอก็จะได้ดูแลกันง่ายขึ้นเช่นกัน

​

Anothai Soonsawat, MD

​

Education

• Geriatric Psychiatry Fellowship Program University of California,

       Los Angeles, California

• Harvard South Shore Psychiatry Residency Training Program/Boston VA Healthcare System, Massachusetts

• Prince of Songkla University, Thailand

 

Professional Licensure

• ABPN Certification for Geriatric Psychiatry

• American Board of Psychiatry and Neurology (ABPN)

• Thai Medical License