รชต ถนอมกิตติ

นักจิตวิทยาพัฒนาการ

(Developmental Psychologist, Therapeutic Play Practitioner, CBT Therapist)

 

“เด็กคนอื่นอาจจะนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนวิชาการ แต่ผมนั่งรถเข้ามาเรียนเต้น” เซฟ-รชต ถนอมกิตติ หนุ่มจากจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้เป็นครูสอนเต้นที่ควบตำแหน่งนักเล่นบำบัด เปิดเรื่องราววัยเด็กด้วยเสียงหัวเราะ

ด้วยการสนับสนุนจากแม่ เซฟเริ่มเรียนเต้นเพื่อปรับบุคลิกภาพมาตั้งแต่มัธยมปลาย หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านนิเทศศาสตร์ เขาได้ทำงานเป็นครีเอทีฟผู้ดูแลสคริปต์รายการ แต่การได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระคือสิ่งที่เขารักมากกว่า เซฟจึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วกลับไปเรียนเต้นอีกครั้ง และเมื่อได้รับคำแนะนำจากครูว่าเขาเองก็น่าจะเป็นครูสอนเต้นได้ เซฟก็พบว่าความสุขของคนเป็นครูที่ไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ การได้พัฒนาคน

“เราชอบมากที่ได้เห็นเด็กโตขึ้น เก่งขึ้น จากเต้นไม่ได้เลยกลายเป็นเต้นได้ดี ทีนี้พอสอนไปก็อยากเพิ่มจุดเด่นในงานสอนให้ตัวเอง ตอนนั้นเรามองเห็นเด็กบางประเภทที่ไม่มีครูคนไหนชอบ ครูมองว่าเป็นเด็กไม่น่ารัก เรารู้สึกว่าพฤติกรรมของเด็กเหล่านี้ต้องมีเบื้องหลังและที่มาที่ไป ทำอย่างไรเราจึงจะเข้าใจเขา เราอยากเป็นครูที่ใครมีปัญหาก็เดินเข้ามาหาเราได้”

เซฟตัดสินใจเรียนต่อด้านจิตวิทยาพัฒนาการด้วยความอยากเข้าใจจิตใจเด็ก ๆ ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นั่นเป็นทางเลือกที่ทำให้เขาพบความสุขอีกครั้ง เพราะสิ่งที่เรียนตรงกับความสนใจ ทำให้ได้ค้นพบตัวเองและได้นำความรู้ไปช่วยแนะนำผู้ปกครองได้จริง หลังจากนั้น ด้วยส่วนผสมพิเศษเฉพาะตัวที่มีทั้งทักษะการเต้นระดับครูและความรู้ด้านจิตวิทยา เขายังได้เริ่มเส้นทางในฐานะนักบำบัดในโรงพยาบาลที่ประยุกต์เอาการเคลื่อนไหวร่างกายเข้ามาใช้ได้เป็นอย่างดี

 
“ร่างกายสำคัญกับจิตใจมากเมื่อเกิดอะไรขึ้น จิตใจอาจเปลี่ยนยาก แต่ร่างกายเปลี่ยนง่าย พอร่างกายเปลี่ยน จิตใจก็จะไปตามร่างกาย ดังนั้นถ้ารู้สึกแย่หรือเศร้า ให้เอาร่างกายไปทำงานแล้วจะช่วยจิตใจได้” เขาอธิบาย

 
ภายหลังเซฟยังศึกษาต่อด้าน Play Therapy หรือการเล่นบำบัดที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้ตัวเองพร้อมสำหรับการทำงานสายนี้มากขึ้น ซึ่งในการเรียนช่วงนี้เองที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองอย่างเข้มข้น

 
“ผมผ่านช่วงวัยเด็กที่มีปัญหามาเยอะเช่นกัน เราโตมาในครอบครัวที่แตกแยก ระหว่างเรียนบำบัดก็ซ่อมตัวเองมาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งเราเข้าใจตัวเอง รู้ว่ามีปมอะไรและมันส่งผลต่อตัวเราอย่างไรบ้าง เรารู้สึกว่ากระบวนการบำบัดมันดีมากและอยากจะช่วยเหลือคน เพราะเราค่อนข้างเข้าใจเด็กที่มาเจอและรู้ว่ามันยากลำบากมากที่ต้องใช้ชีวิตกับปมเหล่านั้น เราจึงชอบงานพัฒนาคนและอยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ที่รู้สึกประทับใจในการทำงานบำบัดคือ วันที่เคสแรกที่เรารักษาเดินมาบอกว่าเขาดีขึ้นแล้ว เราเห็นเขาเปลี่ยนไปมาก กลายเป็นคนที่ยิ้มแย้มและเป็นมิตร วันนั้นเป็นวันที่รู้สึกว่าเราต้องทำอาชีพนี้ เพราะอาชีพนี้ช่วยคนได้จริง” เซฟเล่าด้วยรอยยิ้ม

ด้วยธรรมชาติที่เป็นคนชอบสนับสนุนและช่วยเหลือคนรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้เซฟยังคงสนุกสนานกับทั้งสองบทบาท นั่นคือครูสอนเต้นที่นำความรู้ด้านจิตวิทยามาทำความเข้าใจเด็ก ๆ และนักเล่นบำบัดที่ได้ช่วยให้เด็กมีชีวิตที่ดีขึ้น

 
เขาอธิบายว่าการทำงานบำบัดคือการเรียนรู้ ไม่เพียงแต่ผู้รับบริการได้เรียนรู้จากนักบำบัดเท่านั้น นักบำบัดเองก็ได้เรียนรู้จากผู้รับบริการเช่นกัน การเป็นนักบำบัดทำให้เขายืดหยุ่นและเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น ไม่ว่าผู้รับบริการจะเป็นใคร เซฟพร้อมจะเข้าใจในปัญหาของคนทุกช่วงวัย และไม่มองว่าเรื่องที่เด็กเครียดเป็นเรื่องไร้สาระอย่างแน่นอน 

​

Ratchata Thanomkitti

​

Education

• Associate Teaching Certificate จากสถาบัน Australia Teacher of Dancing ประเทศออสเตรเลีย

• ปริญญาโทจิตวิทยาพัฒนาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

• Post Graduate Certificate in Therapeutic Play Skill จากสถาบัน The Academy of Play and Child Psychotherapy (APAC) ประเทศอังกฤษ

• CBT Diploma (Cognitive Behavioral Therapy) ปริญญาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพจิต แขนงวิชาจิตบำบัดความคิดและพฤติกรรม ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย