top of page
Gradient

บทความสุขภาพจิต

รวมบทความน่ารู้ จากทีมให้คำปรึกษาของ The Oasis

พลังแห่งการพูดคุยบำบัด เจาะลึกศาสตร์ปรึกษาจิตแพทย์ / นักจิตบำบัด


ปรึกษาจิตแพทย์ดีๆ

3 เหตุผล เพราะอะไรการปรึกษาจิตแพทย์ และนักบำบัดถึงช่วยให้เราคลายเศร้า


เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยนึกสงสัยเหมือนกันว่า จิตแพทย์ และนักจิตบำบัดเขามีเทคนิคอะไร ทำไมเวลาเรารู้สึกไม่สบายใจ เป็นกังวล หรือมีความเครียดมาก ๆ คนส่วนใหญ่ถึงมักจะแนะนำให้เราไปปรึกษาจิตแพทย์ก่อนเสมอ ในเมื่อพวกเขาไม่เคยรู้จักเราเลย แถมแค่พูดคุยกันเฉย ๆ มันจะต่างอะไรกับเวลาเราปรึกษาเพื่อน หรือครอบครัว คำตอบก็คือ เพราะพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ และถูกฝึกมาให้จับสังเกตอาการของคนที่อาจจะป่วยทางใจได้นั่นเอง เวลาที่เราได้พูดคุยกับพวกเขา ก็เลยเหมือนเรากำลังอธิบายอาการป่วยให้หมอฟัง ถ้าคุยแล้วมีสถานการณ์บางอย่างที่น่าสงสัยว่าเรากำลังเข้าข่ายป่วยเป็นโรคใด ๆ ก็จะได้รักษาได้ทันการณ์


อย่างไรก็ตามไม่เพียงคนที่ป่วยจริง ๆ เท่านั้นที่ปรึกษาจิตแพทย์กับนักจิตบำบัดแล้วได้ประโยชน์ เพราะต่อให้เรารู้สึกเครียด และไม่ได้ป่วยเป็นโรค แต่พอได้คุยกับพวกเขาแล้วก็เหมือนได้รับการเยียวยาด้วยเหมือนกัน นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีเคล็ดลับในการพูดคุยบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้แน่ ๆ เมื่อสงสัยแล้วก็ต้องหาคำตอบให้สุด วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปรู้จัก 3 เหตุผลที่จะช่วยเจาะลึกศาสตร์แห่งการพูดคุยของเหล่าจิตแพทย์และนักจิตบำบัด ว่าเพราะอะไรการพูดคุยกับพวกเขาถึงช่วยเราได้มากกว่าคุยกับคนอื่น ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย


1. จิตแพทย์ และนักจิตบำบัดคือผู้ฟังที่ดีที่สุดของเรา

เหตุผลข้อแรกที่ทำให้การพูดคุยกับจิตแพทย์ และนักจิตบำบัดช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น คือการที่พวกเขาเป็นผู้ฟังที่ดีมาก ๆ แม้อาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การเป็นผู้ฟังที่ดีคือหัวใจหลักของการสนทนา เนื่องจากเวลาที่เรารู้สึกเครียด และตั้งใจอยากจะปรึกษาใครสักคน นั่นหมายความว่าเรากำลังต้องการคนที่รับฟังปัญหาของเราอยากจริงจัง และใส่ใจ เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียว และกำลังมีใครอีกคนหนึ่งคอยรับฟัง และอยู่เคียงข้างเมื่อเราเผชิญปัญหาและช่วยคิดแก้ไขไปด้วยกันกับเราแน่นอนว่าในชีวิตจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ เพราะใคร ๆ ต่างก็มีชีวิต และความเครียดเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่เมื่อเราปรึกษาจิตแพทย์ และนักจิตบำบัด เพราะพวกเขาถูกฝึกมาให้เป็นคนรับฟังที่ดีและอยู่เคียงข้างเรา


2. จิตแพทย์ และนักจิตบำบัดจะไม่ตัดสินเรา และทำให้รู้สึกแย่

ต่อเนื่องมาจากข้อที่แล้ว การเป็นผู้ฟังที่ดีก็ส่งผลให้จิตแพทย์ และนักจิตบำบัดไม่ตัดสินเรื่องราวของเราด้วย พอประกอบเข้ากับสถานะระหว่างเรา และพวกเขาที่เป็นเพียงคนวงนอกของกัน และกัน และไม่ได้ผูกพันกันเหมือนครอบครัว และเพื่อนที่ต้องเจอกันเป็นประจำ ทำให้บทสนทนาระหว่างเราเป็นไปอย่างมืออาชีพ หมายความว่าพวกเขาจะทำหน้าที่ฟัง และให้คำปรึกษาตามหลักการแพทย์และบริบทชีวิตของเรา จะไม่มีการตำหนิ หรือทำให้เรารู้สึกไร้คุณค่า ซึ่งพวกเขาจะคอยช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง ฝึกให้เราฟังความคิดความรู้สึกและความต้องการของตัวเอง และคอยเคียงข้างให้เราสามารถตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตด้วยตัวเราเอง สิ่งนี้จึงแตกต่างจากเวลาที่เราคุยกับคนใกล้ตัว เพราะบางครั้งพวกเขาก็มักจะหงุดหงิดกับการตัดสินใจของเรา และตำหนิสั่งสอนเพื่อบอกไม่ให้เราทำพลาดอีก หรือไม่ก็แนะนำให้เราแก้ไขในสิ่งที่ยากจะแก้ จนเรารู้สึกเครียดหนักกว่าเดิม การปรึกษาจิตแพทย์ และนักจิตบำบัดจึงเป็นทางออกที่ดีกว่าสำหรับคนที่กำลังหมดทางออกจริง ๆ


3. จิตแพทย์ และนักจิตบำบัดมีวิธีการปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับชีวิตเพื่อช่วยให้เราดีขึ้นในระหว่างการพูดคุย

แน่นอนว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การปรึกษาจิตแพทย์ และนักจิตบำบัดแตกต่างจากการพูดคุยกับคนทั่วไป ก็เพราะเรากำลังคุยกับหมอจิตเวชมืออาชีพ ผู้ทำหน้าที่คอยรักษาโรคทางใจให้คนทั่วไปแบบเราอยู่ พวกเขาย่อมต้องมีทั้งความรู้ ความเข้าใจ และเทคนิคมากมายที่จะช่วยรักษาจิตใจของเราให้กลับมามั่นคงอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้จิตแพทย์จึงไม่ได้เป็นเพียงเพื่อน หรือผู้ฟังที่ดีในเวลาที่เราอยากเจอเท่านั้น แต่พวกเขาคือคนที่เก็บรายละเอียด และควบคุมไดนามิกของบทสนทนาให้ค่อย ๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อจิตแพทย์ประเมินแล้วว่าเราไม่ได้เป็นโรคจิตร้ายแรง หรือต้องกินยาอย่างหนัก พวกเขาก็อาจจะเลือกใช้วิธีการทำจิตบำบัดด้วยการเปลี่ยนความคิด อย่างการทำ ‘Cognitive Behavioral Therapy’ แทน โดยพวกเขาจะคอยสังเกตอาการของเราว่าเราเล่าเรื่องอะไร กังวลเรื่องแบบไหน และมีแนวคิดต่อปัญหาเหล่านั้นอย่างไร จากนั้นก็จะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดออกไป เพื่อให้เราค่อย ๆ ตระหนักว่าสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดกันแน่ ซึ่งวิธีการนี้มักจะทำควบคู่กันไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเมื่อตรรกะความคิดของเรากลับมาถูกต้อง พอเราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอีกครั้ง เราก็จะเข้าใจวิธีการมองโลกที่จะทำให้ไม่เครียด เพราะชุดความคิดของเราได้รับการปรับเปลี่ยนแล้วนั่นเอง


หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมการปรึกษาจิตแพทย์ และนักจิตบำบัดถึงช่วยให้เราสบายใจ และรู้สึกดีขึ้นได้ ก็เพราะพวกเขาเป็นทุกอย่างที่คนกำลังเครีย ดและต้องการที่ปรึกษาอย่างเรา ๆ ต้องการมากที่สุด พอรู้แบบนี้แล้ว ใครที่กำลังเครียดและกังวลว่าตัวเองจะป่วยหรือเปล่า ก็สามารถเข้ามาปรึกษาจิตแพทย์ที่คลินิกจิตเวชโดยตรง หรือสามารถรับคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตผ่านการปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์กับทาง THE OASIS คลินิกจิตเวช ที่ยินดีให้คำปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิต โรคซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ โรควิตกกังวล และปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ เรามีนักจิตบำบัด และจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยินดีให้บริการปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ พร้อมรับฟังปัญหา และบริการวางแผนการรักษา บำบัดด้วยกีฬา หรือศิลปะ เพื่อเพิ่มสมาธิให้กับจิตใจ และทำให้คุณได้ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ในชีวิตมากขึ้น ผู้รับบริการจะได้รับความรู้ความเข้าใจในภาวะโรค และมีบทบาทในการวางแผนการรักษาร่วมกัน ทั้งในส่วนการรักษาด้วยยา และการทำจิตบำบัด


The Oasis คลินิกจิตเวช บริการวางแผนรักษาโรคทางจิตเวช

โดยจิตแพทย์ หมอจิตเวช และนักจิตบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ทั้งโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ อาการแพนิค อารมณ์สองขั้ว ย้ำคิดย้ำทำ และปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ








ดู 382 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page