top of page
The Oasis ( เดอะโอเอซิส )
Gradient

บทความสุขภาพจิต

รวมบทความน่ารู้ จากทีมให้คำปรึกษาของ The Oasis

รักษาอาการแพนิค ได้อย่างไรบ้าง? วิธีจัดการกับโรคแพนิค Panic Disorder ที่คุณควรรู้

รูปภาพนักเขียน: The Oasis TeamThe Oasis Team

อัปเดตเมื่อ 9 ต.ค. 2567

คุณเคยรู้สึกใจสั่น หายใจไม่อิ่ม หรือกลัวอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุชัดเจนไหม? นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคแพนิค หรือ Panic Disorder ซึ่งเป็นหนึ่งในโรควิตกกังวลที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป! เพราะโรคนี้สามารถรักษาได้ เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการแพนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีรักษาอาการแพนิคที่ได้ผล
วิธีรักษาอาการแพนิคที่ได้ผล

เข้าใจโรคแพนิคก่อนเริ่มการรักษา


ก่อนจะพูดถึงวิธีรักษา เรามาทำความเข้าใจกับโรคแพนิคกันสักนิด โรคนี้เป็นความผิดปกติทางจิตใจที่ทำให้เกิดอาการตื่นตระหนกอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาการมักเกิดขึ้นกะทันหันและรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกลัว วิตกกังวล และมีอาการทางร่างกายเช่น ใจสั่น เหงื่อออก หายใจลำบาก


วิธีรักษาอาการแพนิคที่ได้ผล


การรักษาโรคแพนิคนั้นมีหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง:


1. การรักษาด้วยยา : พบจิตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรับยา

การรักษาด้วยยาเป็นวิธีที่ได้ผลดีสำหรับหลายคน โดยจิตแพทย์จะทำการวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดก่อนจ่ายยา ยาที่ใช้มักเป็นยาในกลุ่มต้านเศร้าหรือยาคลายกังวล ซึ่งช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้อาการแพนิคลดลง

ข้อควรรู้:

  • การรักษาด้วยยามักใช้เวลา 8-12 เดือน แต่อาจนานกว่าหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

  • อย่าหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้อาการกำเริบได้

  • แจ้งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับแพทย์เสมอ เพื่อปรับการรักษาให้เหมาะสม


2. การทำจิตบำบัด : พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเยียวยาจิตใจ

จิตบำบัดเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคแพนิค ซึ่งเน้นการเข้าใจและจัดการกับความคิดและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดอาการแพนิค

เทคนิคที่ใช้ในการบำบัด:

  • การวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล

  • ฝึกเผชิญกับสถานการณ์ที่กลัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  • เรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลายและจัดการความเครียด

  • พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการจัดการอารมณ์


3. การผสมผสานการรักษา: ใช้ทั้งยาและจิตบำบัดร่วมกัน

วิธีนี้เป็นการรวมข้อดีของทั้งสองวิธีเข้าด้วยกัน ซึ่งมักให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด โดยยาจะช่วยบรรเทาอาการในระยะสั้น ขณะที่จิตบำบัดจะช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการกับอาการในระยะยาว


4. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต: เสริมการรักษาด้วยการดูแลตัวเอง

นอกจากการรักษาหลักแล้ว การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็มีส่วนสำคัญในการบรรเทาอาการแพนิค ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดู:

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเครียดและเพิ่มสารเคมีที่ทำให้อารมณ์ดีในสมอง

  • ฝึกโยคะหรือทำสมาธิ เพื่อฝึกการควบคุมลมหายใจและจิตใจ

  • นอนหลับให้เพียงพอ เพราะการอดนอนอาจทำให้อาการแย่ลงได้

  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพนิคได้

  • พูดคุยกับคนใกล้ชิด เพื่อระบายความรู้สึกและขอกำลังใจ


เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?


หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจมีอาการของโรคแพนิค ไม่ต้องลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะเมื่อ:

  • มีอาการตื่นตระหนกบ่อยครั้งโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

  • รู้สึกกลัวว่าจะเกิดอาการแพนิคซ้ำ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

  • พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์ที่เคยทำให้เกิดอาการแพนิค


สรุป: การรักษาโรคแพนิคไม่ใช่เรื่องยาก


โรคแพนิคอาจฟังดูน่ากลัว แต่ความจริงแล้วสามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา การทำจิตบำบัด หรือการผสมผสานวิธีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน พร้อมทั้งการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต คุณสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

อย่าลืมว่า การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นก้าวแรกที่กล้าหาญในการดูแลสุขภาพใจของตัวเอง หากคุณกำลังเผชิญกับอาการแพนิค ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูนะคะ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องทนทุกข์กับมันตามลำพัง

ดู 976 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page