ประโยชน์หลักที่เราจะได้จากการฝึกโยคะทุกประเภทอย่างแน่นอนคือ ความรู้สึกสบายที่ร่างกาย ผ่อนคลาย นอนหลับได้ดีขึ้น เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วสะดวกขึ้น มีสมาธิจดจ่อได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ใน โยคะบำบัด จะมีความแตกต่างบางประการจากโยคะปกติ ดังนี้
โยคะบำบัดมีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นเพื่อการบำบัดรักษาความไม่สบายต่างๆ เช่น อาการปวดเรื้อรัง(Chronic Pain) การฝึกผ่อนคลายเพื่อลดความเครียด การจดจ่อกับปัจจุบันเพื่อลดความเครียดจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง(PTSD) การฝึกหายใจเพื่อรับมือกับอาการตื่นตระหนก(Panic Attack) เป็นต้น
โยคะบำบัดให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกภายในมากขึ้น กล่าวคือ ในคลาสโยคะบำบัดจะส่งเสริมให้ผู้ฝึกเกิดการตระหนักรู้ตนเองทั้งทางด้านร่างกาย(Body Awareness) และอารมณ์(Emotional Awareness) ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางบวก การไม่ตัดสิน (non-judgement) รวมไปถึงความรู้สึกรักและปรารถนาดีต่อตนเอง (self-compassion)
ในการฝึกโยคะบำบัดแบบตัวต่อตัว ครูผู้สอนจะช่วยสะท้อนการฝึกของนักเรียน (practice behavior) มีการพูดคุยต่อถึงความรู้สึกและประสบการณ์ของนักเรียนขณะฝึก เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจตนเอง และช่วยให้การทำจิตบำบัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ้างอิงจาก
What is the Difference between Yoga and Yoga Therapy? https://www.yogateacherstrainingrishikesh.com/what-is-the-difference-between-yoga-and-yoga-therapy.html
Comments